Lim Hoo Tai Su Shrine. Sam Gong ศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ (สามกอง)
การก่อสร้างศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ ไม่ปรากฏว่าเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.ใด ทราบแต่ว่า มีผู้มีจิตศรัทธา ชื่อหลวงสุนทรจีนประชา บริจาคที่ดิน ประมาณเกือบหนึ่งไร่ พร้อมทำการสร้างอ๊ามถวายให้ พร้อมทั้งมอบ องค์พระไท้ซู่ก้อง และองค์พระอื่นๆ ประดิษฐานไว้ในศาลเจ้า หลังจากนั้น ได้ตั้งชื่อศาลเจ้าแห่งนี้ว่า ศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า อ๊ามไท้ซู่ก้อง
ประมาณปี พ.ศ.2491-2492 เริ่มมีการบูรณะ ซ่อมแซมศาลเจ้า ซึ่งมี องค์พระไท้ซู่ก้อง ได้มาประทับทรงกับม้าทรงเป็นครั้งแรก เมื่อท่านพูด ผ่านร่างทรง ไม่มีใครฟังรู้เรื่อง ต้องมีคนมาแปลข้อความอีกครั้ง เนื่องจาก ประวัติเดิม ของท่านหลิมฮู้ไท้ซู่ ในอดีตชาติ ครั้งเป็นมนุษย์ ได้ปฏิบัติราชการ ในวังหลวง ดั้งนั้น เวลาพูด จึงติดคำราชาศัพท์ ทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง ภายหลัง จึงขอให้ท่านพูดเป็นภาษาฮกเกี้ยนแทน
เมื่อท่านหลิมฮู้ไท้ซู่ประทับทรง ท่านได้ทำการรักษาคนไข้ โดยวิธีการรักษา ที่แปลก อย่างแรก ท่านจะตรวจวิเคราะห์แล้ว ก็ออกสลากยา ด้วยการเขียน ตัวยาในกระดาษทอง ระบุน้ำหนักยาแล้ว นำกระดาษทอง ที่เขียนนั้น มาใส่ใน หม้อดิน แล้วนำไปหน้าศาลเจ้า จุดธูป 9 ดอกผูกติดกับหม้อยา บอกกล่าว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พอธูปหมดดอกก็นำไปเติมน้ำต้มกิน
ต่อมา ได้มีการบูรณะอ๊ามอีกครั้ง ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า ตำรายาสูญหายไป ตอนที่มีการบูรณะด้วย และในปี พ.ศ.2537 ศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ ได้มีการบูรณะอีกครั้ง และสร้างเสร็จในปีถัดมา
พิธีกรรม / ประเพณี
เดิมประเพณีถือศีลกินผักของศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ ต้องไปร่วมพิธี ถือศีลกินผัก กับศาลเจ้าบางเหนียว แต่ในปี พ.ศ.2538 หลังจากศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ หลังใหม่สร้างเสร็จ ทางอ๊ามก็ได้จัดประเพณีถือศีลกินผักเอง และ ได้อัญเชิญ “เหี่ยวโห้ย” (ไฟศักดิ์สิทธิ์) มาจากมณฑลกังไซ้ ประเทศจีน มีผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมพิธีกรรม ถือศีลกินผักเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาประจำทุกปี
ความเชื่อ
ชาวบ้านที่มีความศรัทธาต่อองค์หลิมฮู้ไท้ซู่ มักไปบนบานขอพร ให้หายจาก โรคภัยไข้เจ็บ บางคนซื้อยาจากร้านยาจีน แล้วนำมาให้องค์หลิมฮู้ไท้ซู่ เสกยานั้นให้เป็นยาวิเศษ ซึ่งก็เป็นความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละบุคคล
การก่อสร้างศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ ไม่ปรากฏว่าเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.ใด ทราบแต่ว่า มีผู้มีจิตศรัทธา ชื่อหลวงสุนทรจีนประชา บริจาคที่ดิน ประมาณเกือบหนึ่งไร่ พร้อมทำการสร้างอ๊ามถวายให้ พร้อมทั้งมอบ องค์พระไท้ซู่ก้อง และองค์พระอื่นๆ ประดิษฐานไว้ในศาลเจ้า หลังจากนั้น ได้ตั้งชื่อศาลเจ้าแห่งนี้ว่า ศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า อ๊ามไท้ซู่ก้อง
ประมาณปี พ.ศ.2491-2492 เริ่มมีการบูรณะ ซ่อมแซมศาลเจ้า ซึ่งมี องค์พระไท้ซู่ก้อง ได้มาประทับทรงกับม้าทรงเป็นครั้งแรก เมื่อท่านพูด ผ่านร่างทรง ไม่มีใครฟังรู้เรื่อง ต้องมีคนมาแปลข้อความอีกครั้ง เนื่องจาก ประวัติเดิม ของท่านหลิมฮู้ไท้ซู่ ในอดีตชาติ ครั้งเป็นมนุษย์ ได้ปฏิบัติราชการ ในวังหลวง ดั้งนั้น เวลาพูด จึงติดคำราชาศัพท์ ทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง ภายหลัง จึงขอให้ท่านพูดเป็นภาษาฮกเกี้ยนแทน
เมื่อท่านหลิมฮู้ไท้ซู่ประทับทรง ท่านได้ทำการรักษาคนไข้ โดยวิธีการรักษา ที่แปลก อย่างแรก ท่านจะตรวจวิเคราะห์แล้ว ก็ออกสลากยา ด้วยการเขียน ตัวยาในกระดาษทอง ระบุน้ำหนักยาแล้ว นำกระดาษทอง ที่เขียนนั้น มาใส่ใน หม้อดิน แล้วนำไปหน้าศาลเจ้า จุดธูป 9 ดอกผูกติดกับหม้อยา บอกกล่าว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พอธูปหมดดอกก็นำไปเติมน้ำต้มกิน
ต่อมา ได้มีการบูรณะอ๊ามอีกครั้ง ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า ตำรายาสูญหายไป ตอนที่มีการบูรณะด้วย และในปี พ.ศ.2537 ศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ ได้มีการบูรณะอีกครั้ง และสร้างเสร็จในปีถัดมา
พิธีกรรม / ประเพณี
เดิมประเพณีถือศีลกินผักของศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ ต้องไปร่วมพิธี ถือศีลกินผัก กับศาลเจ้าบางเหนียว แต่ในปี พ.ศ.2538 หลังจากศาลเจ้าหลิมฮู้ไท้ซู่ หลังใหม่สร้างเสร็จ ทางอ๊ามก็ได้จัดประเพณีถือศีลกินผักเอง และ ได้อัญเชิญ “เหี่ยวโห้ย” (ไฟศักดิ์สิทธิ์) มาจากมณฑลกังไซ้ ประเทศจีน มีผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมพิธีกรรม ถือศีลกินผักเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาประจำทุกปี
ความเชื่อ
ชาวบ้านที่มีความศรัทธาต่อองค์หลิมฮู้ไท้ซู่ มักไปบนบานขอพร ให้หายจาก โรคภัยไข้เจ็บ บางคนซื้อยาจากร้านยาจีน แล้วนำมาให้องค์หลิมฮู้ไท้ซู่ เสกยานั้นให้เป็นยาวิเศษ ซึ่งก็เป็นความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละบุคคล
No comments:
Post a Comment