Pud Jor Shrine, Phuket (ศาลเจ้าปุดจ้อ) is one of the oldest shrines in Phuket and is located next to Jui Dtui Shrine. Said to be around 200 years old it was renovated about 100 years ago after being damaged by fire. As the story goes the original temple, know as Sarn Jao Te Gun, was located at it's present position in the middle of what in those days was known as Meung Tung Ka which was then also a sea port. It is said that a trader coming from Penang pulled his boat up in front of the temple and before leaving presented a wooden carving of Mae Guan Im Pud Jor to be worshipped at the Te Gun Shrine. The old temple was a simple building with a thatched 'Jack leaf' roof and had to be repaired several times before finally being changed to a tiled roof with donations from local people and the people of Penang. The temple was renovated again in 1993.
Every year the temple hold a celebration in honour of Mae Guan Im's birthday on the 19th day of the 2nd month of the Chinese Calendar.
According to local belief, young couples that have difficulty in having children will go to the temple to pray to Mae Guan Im. If their prays are fulfilled they will return with the new born child one month after birth to ask for good fortune for the child.
ศาลเจ้าปุดจ้อ หรือ อ๊ามปุดจ้อ ตามภาษาเรียกคนภูเก็ต เป็นศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีกลางเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่บนถนนระนอง ติดกับศาลเจ้าจุ๊ยตุ่ย
ศาลเจ้าปุดจ้อตั้งอยู่ในใจกลางเมืองภูเก็ต จากหลักฐานอ้างอิง ในสมัยอดีต มีผู้เล่าว่า เดิมที่ตั้งศาลเจ้าปุดจ้อเป็นศาลเจ้าเต้กุน (กวนอู) ซึ่งสร้างเป็น อาคารไม้หลังคามุงจาก สถานที่แห่งนี้ เรียกกันว่า หมู่บ้านจุ้ยตุ่ย ต่อมามี พ่อค้าชาวเรือ ได้เดินทางมาจากปีนัง (มาเลเซีย) มายังเมืองทุ่งคา (ภูเก็ต) เพื่อทำธุรกิจ ได้ล่องเรือมาถึงหน้าศาลเจ้า ซึ่งสมัยก่อนเป็นท่าเรือ ในเรือลำนี้ มีองค์รูปสลักไม้ (กิมซิ้น) ของกวนอิมปุดจ้อ ซึ่งปกติแล้ว เจ้าของเรือ จะมีไว้ในเรือ เพื่อสักการบูชาเป็นประจำ และปกป้อง คุ้มครองจาก ภัยอันตรายทั้งปวง ด้วยสิ่งศักดิ์สทธิ์ดลใจ ให้พ่อค้าเจ้าของเรือ มอบองค์รูปแกะสลัก ของ พระแม่กวนอิมปุดจ้อ ให้ประดิษฐานไว้ ณ ศาลเจ้าเต้กุน เพื่อให้ผู้คนได้สักการบูชา
หลายปีต่อมา อาคารหลังคามุงจากชำรุดทรุดโทรม ท่านผู้หนึ่ง นามว่า ตันฮกกุ้ย ได้ทำการซ่อมแซมอาคารศาลเจ้าขึ้นใหม่ จนเวลา 30 ปีต่อมา อาคารไม้ หลังคามุงจาก ก็เสื่อมทรุดโทรมลงอีกครั้ง นายจงกก ตันสกุล (เสวตานนท์) ได้รวบรวมเรี่ยไรเงิน และสิ่งของจากชาวภูเก็ตและชาวปีนัง ทำการบูรณะ ก่อสร้างเพิ่มเติม โดยเปลี่ยนจากไม้เป็นก่ออิฐและหลังคาเปลี่ยนเป็นกระเบื้อง ภายในตัวอาคารมีการแกะสลักลายไม้ต่างๆอย่างประณีตสวยงาม
ในปี พ.ศ.2536 ได้มีการบูรณะศาลเจ้าปุดจ้ออีกครั้ง นำโดย คุณณรงค์ หงส์หยก ประธานศาลเจ้า และ คุณสงวน เยาววาจา ผู้ดูแลศาลเจ้า หลังจากนั้น คณะกรรมการได้จัดงานเฉลิมฉลอง จัดให้มีขบวนแห่อัญเชิญ กิมซิ้นกวนอิมปุดจ้อ ไปตามถนนสายต่างๆ และประกอบพิธี เฉี้ยโห้ย ณ บริเวณสะพานหิน
พิธีกรรม / ประเพณี
ทุกปี ทางศาลเจ้าจะจัดให้มีการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิด พระแม่กวนอิม ซึ่งตรงกับวันที่ 19 เดือน 2 ตามปฏิทินของจีน โดยตอนกลางวันจัดโรงทาน เลี้ยงอาหาร ตอนค่ำจัดให้มีมโหรสพ
ความเชื่อ
เชื่อกันว่า หนุ่มสาวที่ไปสักการะขอพระเรื่องเนื้อคู่ก็จะสมหวังดังคำอธิษฐาน และ เชื่อว่าหากคู่สมรสที่ไม่มีบุตรและต้องการมีบุตร ก็ไปบนบานขอบุตรก็จะสัมฤทธิ์ผล และหากใครที่ได้บุตรแล้ว เมื่อครบเดือน ก็จะนำเด็กไปขอพรจากพระแม่กวนอิม เพื่อความเป็นศิริมงคล ดังนั้น กล่าวได้ว่า ศาลเจ้าปุดจ้อเป็นสถาน ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของสาธุชนทั้งหลาย
No comments:
Post a Comment